
อาการ “ปวด” เป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงานหนัก แต่รู้หรือไม่ว่า อาการปวดไม่ได้มีแค่แบบเดียว? แพทย์จะแบ่งอาการออกเป็นสองกลุ่มหลัก ๆ คือ “ปวดเฉียบพลัน (Acute Pain)” และ “ปวดเรื้อรัง (Chronic Pain)” ซึ่งแต่ละแบบมีสาเหตุ ระยะเวลา และแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้เราดูแลตัวเองได้ถูกวิธีและลดโอกาสเกิดอาการซ้ำ
ปวดเฉียบพลันคืออะไร
อาการปวดเฉียบพลันคือ อาการปวดที่เกิดขึ้นทันที มีสาเหตุชัดเจน และมักหายภายในระยะเวลาไม่เกิน 4–6 สัปดาห์ เช่น
– ปวดหลังจากการยกของหนัก
– ปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
– ปวดคอหรือบ่าจากการนั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ
– ปวดจากการหกล้มหรือกล้ามเนื้อฉีกเล็กน้อย
เมื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะหดเกร็งเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม จึงทำให้เกิดอาการตึงและปวดมากขึ้น หากได้รับการดูแลที่ถูกวิธี อาการปวดเฉียบพลันมักจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในเวลาไม่นาน
ปวดเรื้อรังคืออะไร
อาการปวดเรื้อรังคือ อาการปวดที่คงอยู่นานเกิน 3 เดือน และมักเป็นอาการที่เกิดซ้ำ ๆ หรือปวดต่อเนื่องโดยไม่มีสาเหตุเฉพาะเจาะจง เช่น
– ปวดหลังจากหมอนรองกระดูกเสื่อม
– ปวดคอบ่าไหล่จาก Office Syndrome
– ปวดข้อจากโรคข้ออักเสบ
– ปวดกล้ามเนื้อจากภาวะเครียดหรือนอนหลับไม่ดี
อาการปวดเรื้อรังไม่เพียงกระทบต่อร่างกาย แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์ คุณภาพการนอน และประสิทธิภาพในการทำงาน หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจพัฒนาไปสู่ภาวะปวดเรื้อรังถาวร
การดูแลอาการปวดเฉียบพลัน
การรักษาอาการปวดเฉียบพลันควรมุ่งเน้นไปที่ การลดการอักเสบและคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง โดยอาจทำได้ดังนี้
– พักการใช้งาน บริเวณที่ปวด หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวซ้ำ
– ประคบเย็น ใน 24 ชั่วโมงแรก แล้วสลับเป็น ประคบร้อน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
– ใช้ ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น Norgesic ซึ่งมีส่วนผสมของ Orphenadrine citrate (ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว) และ Paracetamol (ช่วยลดปวดและลดอักเสบ)
ยาคลายกล้ามเนื้อเช่น Norgesic ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการเจ็บตึง ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการพักผ่อนและการดูแลที่ถูกวิธี
การดูแลอาการปวดเรื้อรัง
อาการปวดเรื้อรังจำเป็นต้องดูแลอย่างต่อเนื่องและรอบด้าน เช่น
– ทำกายภาพบำบัด (Physical Therapy) เพื่อปรับสมดุลของกล้ามเนื้อและกระดูก
– ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ พิลาทิส หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
– ปรับท่าทางการทำงาน ให้เหมาะกับสรีระ เช่น ใช้โต๊ะและเก้าอี้ที่พอดีกับความสูง
– จัดการความเครียดและนอนให้เพียงพอ
สรุป
ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น ยา Norgesic สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเกร็งจากความเครียดได้ แต่ไม่ควรใช้เป็นทางออกระยะยาว การผสมผสานการ ยืดเหยียด ปรับท่าทาง นวด และทำกายภาพบำบัด ร่วมกับการใช้ยาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ป้องกันการบาดเจ็บ และทำให้คุณใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างราบรื่น สามารถปรึกษาเภสัชกรจาก Medcare ร้านยาออนไลน์ 24 ชั่วโมง รับคำปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App ได้ทันที เพื่อให้คุณมั่นใจวิธีการใช้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
