
ในชีวิตคนทำงานยุคปัจจุบัน ความเครียดถือเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ตั้งแต่แรงกดดันเรื่องงาน การประชุมต่อเนื่อง ไปจนถึงการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมง ความเครียดเหล่านี้มักทำให้ กล้ามเนื้อเกร็งตึง โดยเฉพาะบริเวณ คอ บ่า ไหล่ และหลัง
อาการกล้ามเนื้อเกร็งจากความเครียดไม่เพียงทำให้ร่างกายรู้สึกอึดอัด แต่ยังส่งผลต่อการนอนหลับ การทำงาน และคุณภาพชีวิตโดยรวม
ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดกับกล้ามเนื้อ
เมื่อร่างกายเครียด ระบบประสาทจะปล่อยฮอร์โมน คอร์ติซอล ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหดตัวโดยไม่รู้ตัว หากเกิดซ้ำหรือยาวนาน กล้ามเนื้ออาจเกิดการอักเสบและปวดตึงเรื้อรัง
ตัวอย่างอาการที่พบได้บ่อยคือ
• ปวดตึงคอและบ่า
• ปวดหลังจากนั่งทำงานผิดท่า
• ปวดศีรษะจากการเกร็งคอ
วิธีคลายกล้ามเนื้อเบื้องต้น
1. ยืดเหยียดเป็นประจำ ทุก 1–2 ชั่วโมง ควรลุกขึ้นยืดแขน คอ และหลัง เพื่อลดความตึง
2. ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น การปรับเก้าอี้ โต๊ะ และจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
3. นวดและกายภาพบำบัด การนวดไทยหรือกายภาพบำบัดช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและคลายกล้ามเนื้อ
ยาคลายกล้ามเนื้อช่วยได้ไหม
ในกรณีที่กล้ามเนื้อเกร็งรุนแรงหรือปวดจนขยับลำบาก ยาคลายกล้ามเนื้อ สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ หนึ่งในยาที่มักถูกใช้คือ ยา Norgesic
• Orphenadrine citrate : คลายกล้ามเนื้อ ลดการเกร็ง
• Paracetamol : ลดอาการปวด
ข้อสำคัญคือ ต้องใช้ ตามคำแนะนำแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ควรใช้เองหรือเกินขนาด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ หรือใจสั่น
ข้อควรระวังในการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ
• หลีกเลี่ยงการขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรหลังรับประทานยา
• ไม่ควรใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์
• ผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคตับ ไต ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
• การใช้ยาไม่ทดแทนการปรับพฤติกรรมหรือออกกำลังกาย
สรุป
ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น ยา Norgesic สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเกร็งจากความเครียดได้ แต่ไม่ควรใช้เป็นทางออกระยะยาว การผสมผสานการ ยืดเหยียด ปรับท่าทาง นวด และทำกายภาพบำบัด ร่วมกับการใช้ยาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ป้องกันการบาดเจ็บ และทำให้คุณใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างราบรื่น สามารถปรึกษาเภสัชกรจาก Medcare ร้านยาออนไลน์ 24 ชั่วโมง รับคำปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App ได้ทันที เพื่อให้คุณมั่นใจวิธีการใช้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
